Choosing the remarkable and enjoyable experience with event planners

General

The event planning companies have event planners that may change the outlook of this event with only a couple changes that are necessary. Changes in an event make and can alter the event look like a wonderland that is magical and stunning. Event planners are masterminds behind events that are powerful. The planners which are currently hiring for weddings are a few of the planners as organizing and planning weddings is among the tasks. To be perfect, each couple needs it to seem like a marriage made in paradise thus by making the event memorable and very exclusive one, a wedding planner should satisfy the customers.

Event planners in the Bay Area need to care for number of elements such as the catering, noise and the lights, the décor. Their tasks can be assigned by them to individuals who are working under them and reporting to the planners. The events management services in singapore should plan and execute the occasion as the amount people are currently spending is enormous and they cannot be disappointed. When an event has been organized getting the ideal event planner is the most important element. Here are some tips in getting the event organizer that is perfect.

  1. Referrals help to a wonderful extent and have to be chosen over planners. The job or activities the planner has completed when a planner is known it is due. So referrals are great to go with.
  2. If you could drop by to a their events to see how they are currently carrying out their activities Request the wedding planner, this will be a fantastic way since it will be a right in front of your eyes to judge a planner.
  3. There are lots of hassles that take place during occasions like sometimes the transport or the catering is not organized well or the DJ does not appear on time, so question the planner and ask them how they will be managing and sorting out the event if these issues occur.
  4. There are a lot of event companies in the Bay Area these days find a great company and ask them to assign a planner that will make the occasion a success. Pick the budget of the payment of this event planner will be done whether it is by the hour or a complete package, and make not. The Event Planner Bay Area is great to work with and cater to their services. Going reading and on the internet reviews will help you pick the one that is right. Finding the one that is ideal does not necessarily have to mean locating the one that is very expensive. There are a range of event planners from the Bay Area that can do a job for a fantastic price.

บัตรเดบิต กับ บัตรเครดิต เลือกใช้แบบไหนดี ที่จะเหมาะกับเรา

Finance

ในสังคมยุคดิจิทัล ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้กับเราในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงเรื่องของธุรกรรมการเงินด้วยนั้น เมื่อสังคมเข้าสู่ยุคสังคมไร้เงินสด บัตรอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ก็เริ่มที่จะมีบทบาทมากขึ้น ทั้งบัตรเดบิต บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และบัตรเอทีเอ็ม แต่บัตรที่ทำให้คนสับสนและงงกับการใช้ก็คือ บัตรเดบิต และ บัตรเครดิต นั่นเอง เพราะบัตรทั้งสองต่างก็เป็นบัตรที่ออกโดยสถาบันการเงินเหมือนกัน ทั้งยังใช้รูดจ่ายสิ่งของแทนเงินสดได้เหมือนกันอีกด้วยแล้วบัตรแบบไหนที่จะเหมาะกับเรามากกว่ากัน บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักบัตรทั้งสองชนิดกัน

บัตรเดบิต คืออะไร

บัตรเดบิต (Debit Card) คือบัตรที่ออกโดยธนาคารหรือสถาบันการเงิน โดยเราจะต้องมีการเปิดบัญชีกับทางธนาคารไว้ก่อนเพื่อผูกบัญชีเข้ากับบัตรเดบิต ซึ่งเราจะสามารถนำบัตรไปใช้ในการทำธุรกรรมการเงินต่างๆ ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือเครื่อง ATM ได้ ไม่ว่าจะเป็น ชำระเงิน ฝาก โอน หรือถอน โดยไม่ต้องใช้เงินสด วิธีการใช้ชำระค่าสินค้าต่าง ๆ ก็คือ หักจากบัญชีธนาคารของเราโดยตรงนั่นเอง และเราต้องเสียค่าธรรมเนียมแรกเข้าและค่าธรรมเนียมรายปีให้กับทางธนาคารตามที่กำหนด

ข้อดีของบัตรเดบิต

บัตรเดบิต เป็นบัตรเงินสดที่ผูกไว้กับบัญชีเงินฝากของผู้ใช้ จึงเรียกได้ว่าเป็นการใช้เงินของเราเองแค่ใช้ผ่านบัตรเท่านั้น ไม่ได้กู้เงินธนาคารมาใช้ก่อน และไม่ใช่สินเชื่อทำให้ไม่มีการคิดดอกเบี้ย ไม่ว่าเราจะใช้จ่ายกี่ครั้งก็ตามและนอกจากจะใช้รูดจ่ายค่าสินค้าและบริการได้แล้วนั้น บัตรเดบิตยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่าง เช่น ใช้เติมเงินโทรศัพท์มือถือผ่านตู้ ATM ใช้ซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อได้โดยไม่ต้องใช้เงินสด และยังมีสิทธิประโยชน์อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นส่วนลดร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ รวมไปถึงพ่วงประกันอุบัติเหตุหรือประกันชีวิตให้ด้วย แต่จะมีค่าธรรมเนียมรายปีที่สูงกว่าบัตรเดบิตทั่วไป และหากบนบัตรเดบิตมีเครื่องหมาย PLUS หรือ CIRRUS ก็สามารถกดเงินสดที่ตู้ ATM หรือรูดซื้อสินค้าและบริการที่ต่างประเทศได้อีกด้วย

บัตรเครดิต

บัตรเครดิต คืออะไร

บัตรเครดิต (Crebit Card) คือสินเชื่อบุคคลธรรมดา ที่ธนาคารจะให้เงินกู้จำนวนหนึ่งตามที่ธนาคารกำหนด โดยการใช้จ่ายวงเงินนั้นผ่านบัตร เพื่อซื้อสินค้าและบริการต่างๆ หรือใช้จ่ายทำธุรกรรม แต่จะต้องทำการชำระหนี้ที่ยืมไปเหล่านั้นภายในระยะเวลาที่กำหนด พร้อมกับต้องเสียดอกเบี้ยตามอัตราของธนาคาร เมื่อครบรอบบิล 30 วัน ทางธนาคารจะส่งใบแจ้งหนี้มาให้เรา และเราก็ต้องทำการจ่ายชำระหนี้ค้างนั้น ซึ่งรูปแบบของบัตรเครดิตก็คือสินเชื่อส่วนบุคคลระยะสั้นนั่นเอง

ข้อดีของบัตรเครดิต

บัตรเครดิต เป็นบัตรที่เราสามารถใช้จ่ายเงินล่วงหน้าไปก่อนได้ตามวงเงินที่ธนาคารกำหนด โดยธนาคารผู้ออกบัตรให้จะเป็นผู้จ่ายแทน และเราก็จะเป็นคนชำระหนี้นั้นพร้อมต้องเสียดอกเบี้ยตามเงื่อนไขที่ธนาคารกำหนดให้กับธนาคาร แต่บัตรเครดิตมักจะมาพร้อมกับสิทธิประโยชน์และส่วนลดต่างๆในการใช้จ่ายรวมถึงการสะสมคะแนนเพื่อแลกของรางวัล บัตรกำนัล หรือส่วนลดต่าง ๆ ยังร้านค้า ร้านอาหาร ที่ร่วมรายการ เป็นบัตรที่สะดวกในการใช้งานเพราะใช้แทนเงินสดได้เลย แถมยังสามารถใช้ผ่อนชำระสินค้าได้อีกด้วยในกรณีที่ไม่ต้องการจ่ายด้วยเงินสด แต่ก็มีข้อเสียคือ หากเราใช้จ่ายไม่ระวังใช้จ่ายเกินตัว หรือเกินกว่ารายได้ จนไม่สามารถหาเงินมาใช้คืนธนาคารได้ตามกำหนดเวลา ก็จะทำให้เราเสียดอกเบี้ยและเป็นหนี้สูงขึ้นเรื่อย ๆ และอาจจะเสียเครดิตไปเลย

ควรเลือกใช้แบบไหนดี

บัตรเดบิตกับบัตรเครดิต นั้นมีความแตกต่างกันในเรื่องของการใช้จ่าย ซึ่งเมื่อเราใช้เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการบัตรเดบิตจะจ่ายเงินสดทันที ด้วยการหักเงินจากบัญชีของเราโดยอัตโนมัติ เป็นการซื้อแล้วจ่ายเลย ไม่ต้องเสียดอกเบี้ย หากเราเป็นคนที่ใช้จ่ายหนักและควบคุมการใช้จ่ายตนเองไม่ได้ บัตรเดบิตก็จะเหมาะกว่า เพราะเป็นการหักเงินจากบัญชีของเรา ถ้าเรามีเงินในบัญชีเท่าไหร่ เราก็จะใช้เงินผ่านบัตรได้เท่านั้น ไม่เป็นการสร้างหนี้ให้กับเราอีกด้วย

ในขณะที่บัตรเครดิตจะเป็นการซื้อแล้วจ่ายทีหลัง เปรียบเสมือนการกู้สินเชื่อมาใช้ และจะมีภาระดอกเบี้ยในการใช้จ่ายตามมาด้วย แต่บัตรเครดิตก็พ่วงมาด้วยสิทธิประโยชน์และสิทธิพิเศษต่างๆที่บัตรเดบิตไม่มีเช่น การชำระค่าสินค้าและบริการบางอย่างที่รับเฉพาะบัตรเครดิต หรือการผ่อนชำระสินค้า ซึ่งบัตรเครดิตจะเหมาะกับคนที่สามารถควบคุมการใช้จ่ายของตนเองได้ และประเมินแล้วว่าเราสามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดทุกงวดโดยไม่กระทบการเงิน

ซึ่งหากเราพอจะเข้าใจความแตกต่างระหว่างบัตรเดบิตกับบัตรเครดิตกันแล้วนั้น ก็เลือกให้เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ของตนเองและควรศึกษาข้อมูลรายละเอียดในคู่มือการใช้บัตรให้ดีรวมถึงติดตามข่าวสารต่างๆ เพื่อให้รู้ทันเทคโนโลยีด้วย ใช้บัตรให้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ใช้บัตรเพื่อสร้างหนี้ เพียงเท่านี้เราก็สามารถใช้บัตรเดบิต และ บัตรเครดิต ได้อย่างปลอดภัย